
นี่คือโพสต์ของ Andreea Gleeson ประธานกรรมการบริหารของ TuneCore (ในภาพ) ผู้เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เธอมองว่าเป็น "การปฏิรูปการทำงานของฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน (A&R)" – ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้ทดสอบและเผยแพร่ผลงานเพลงของตนผ่านช่องทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, YouTube, และ Instagram; ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับแฟนเพลง ศิลปิน และค่ายเพลง และทำให้กลุ่มศิลปินอิสระ กลายเป็นกลุ่มศิลปินที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมดนตรี
ศิลปินอินดี้กำลังมาแรง
บทบาทของดิฉันในฐานะประธานกรรมการบริหารคือการเชื่อมต่อและเข้าถึงศิลปินให้มากที่สุด
ดิฉันชอบฟังเรื่องราวการเดินทางในสายอาชีพของพวกเขาและสิ่งที่ขับเคลื่อนพวกเขา ในระยะหลังบ่อยครั้งที่ดิฉันพบว่า เรากำลังพูดคุยกันถึงโซเชียลมีเดียและกระแสไวรัล การมีบทเพลงที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วเป็นอะไรที่ยากและน่าตื่นเต้น ถ้าทำได้ถือว่าโชคดีมากเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศิลปินอิสระได้กลายเป็นภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปินอินดี้ DIY ที่กำลังเติบโต ในอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 34% ในปี 2020 จากผลการวิจัยของ MIDiA ศิลปินเหล่านี้คือศิลปินที่ TuneCore ทำงานด้วยในแต่ละวัน – พวกเขาเป็นศิลปินที่ไม่ยึดติดกับโครงสร้างที่เข้มงวดของวงการเพลงแบบเก่าและเป็นผู้เผยแพร่บทเพลงตามเงื่อนไขของตนเอง
รายงานของ MIDiA แสดงให้เห็นว่า ค่ายเพลงอิสระและศิลปินอินดี้เติบโตแซงหน้าอุตสาหกรรมดนตรีโดยรวมถึง 7% การทะยานแบบก้าวกระโดดในภาคส่วนของศิลปิน DIY ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้วถึงปี 2020 สามารถทำเงินได้ถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยรวมมากกว่า 5.1%
ศิลปินอินดี้ในปัจจุบันอยู่ในช่วงเวลาที่ดีตรงที่สามารถใช้โอกาสที่แพลตฟอร์มเพลงดิจิทัลมอบให้ได้อย่างเต็มที่ และบริษัทอย่าง TuneCore ก็มีความคล่องตัวในการรองรับศิลปินเหล่านี้ในแบบที่ค่ายเพลงรายใหญ่ๆ ไม่สามารถทำได้
เมื่อมีการค้นพบเกิดขึ้น โซเชียลมีเดียก็จะมีความนิยมมากขึ้น
ทุกวันนี้ การค้นพบเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ตัวอย่างเช่น TikTok ที่มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคน มากกว่า Spotify ถึง 3 เท่า ในปีที่แล้วมีการค้นพบการแสดงถึง 70 โชว์บน TikTok ที่ได้รับการเซ็นสัญญา สมาชิกTikTok ถึง 75% กล่าวว่า พวกเขาค้นพบศิลปินหน้าใหม่ผ่าน TikTokและ 67% มีแนวโน้มที่จะค้นหาบทเพลงบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหากพวกเขาได้ยินจากแอป (อ้างอิงจาก Music Perceptions Research จัดทำโดย MRC Data เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020)
YouTube Shorts เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอขนาดสั้นใหม่ล่าสุด เปิดตัวในปี 2020 ในช่วงฤดูร้อนนี้ YouTube Shorts มียอดเข้าชมรายวันทั่วโลกกว่า 15 พันล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 6.5 พันล้านครั้งในช่วงเริ่มต้นการขยายธุรกิจไปทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2021
Instagram Reels เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2020 และให้บริการแล้วใน 50 ประเทศทั่วโลก ขณะนี้มีผู้ใช้งานถึง 50% ของเวลาที่ใช้บน Facebook และ Instagram โดย Reels กำลังเป็นผู้นำเทรน
เมื่อรวมการเพิ่มจำนวนของศิลปินอินดี้กับการเพิ่มการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย – คุณมีโอกาสใหม่ๆ มากมายสำหรับการเติบโต
กรณีศึกษา: Charlotte Sands สร้างกระแสไวรัล – เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ขณะที่ Charlotte Sands (ชาร์ลอตต์ แซนส์) ศิลปิน TuneCore กำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อไปร่วมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า เธอได้ตัดสินใจโพสต์ตัวอย่างเพลง “Dress” ซึ่งเป็นเพลงที่เธอแต่งเกี่ยวกับ Harry Styles (แฮร์รี่ สไตล์ส) สวมกระโปรงลงหน้าปกนิตยสาร Vogue อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เมื่อเธอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ วิดีโอ TikTok ของเธอก็กลายเป็นกระแสไวรัล ในช่องแสดงความคิดเห็นของวิดีโอนี้เต็มไปด้วยข้อความร้องขอให้เธอปล่อยเพลงทั้งเพลง: แฟนๆ ต่างหิวกระหายที่จะได้ยินทั้งเพลง ไม่ใช่แค่ตัวอย่างบางส่วนที่เธอโพสต์เท่านั้น
ในอีกไม่กี่วันต่อมา Charlotte ปล่อยเพลงดังกล่าวในฐานะศิลปินอินดี้ผ่าน TuneCore ในเวลาไม่ถึง 72 ชั่วโมง เพลงของเธอก็ได้รับความนิยมอย่างมาก “Dress” มีอยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของ Spotify หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น: New Music Friday, Teen Beats, New in Pop, Fresh Finds Pop – และเธอเป็น Cover Artist สำหรับเพลย์ลิสต์ Fresh Finds ในสัปดาห์นั้น
ปัจจุบัน Charlotte มีผู้ฟังใน Spotify มากกว่าหนึ่งล้านคนต่อเดือน โดยมี "Dress" นำร่องถึง 11 ล้านสตรีม และวิดีโอต้นฉบับบน TikTok ที่ 1.3 ล้านวิว เธอตกลงเซ็นสัญญากับ Believe บริษัทแม่ของ TuneCore และเปิดตัว EP ใหม่เมื่อต้นฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เวลาที่เหลือของปีเธอได้เดินทางไปทั่วประเทศในฐานะนักแสดงเปิดเวทีให้กับวง Youngblood
ลองคิดดู: ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากการปล่อยเพลงทดสอบความนิยมบน TikTok
ทางเดินต่อไป: “ถ้าเพลงดี แฟนๆ จะหาจนเจอและช่วยกระจายความนิยมให้
สิ่งหนึ่งที่ค่ายเพลงรายใหญ่มีแต่ค่ายเพลงอิสระไม่มีคือ แผนกส่งเสริมการขายขนาดใหญ่ที่มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือการผลักดันเพลงให้ได้รับการเผยแพร่ทางรายการวิทยุ แต่จากการที่วิดีโอแบบสั้นบนแพลตฟอร์มเช่น TikTok, YouTube Shorts และ Reels กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสำคัญของการค้นพบเพลงในสื่อแบบดั้งเดิม เช่น วิทยุจึงลดน้อยถอยลง ทุกวันนี้ การค้นพบเพลงใหม่ๆเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย หากเพลงนั้นดี แฟนๆ จะหาจนเจอและช่วยกระจายความนิยมให้
TuneCore ให้ความสำคัญกับศิลปินเป็นอันดับแรกเสมอ สำหรับดิฉัน นี่คือหน้าที่หลักของเรา
เราต้องการช่วยให้ศิลปินอินดี้กลายเป็นนักดนตรีอาชีพ - ดังนั้นเราจึงพยายามท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลาในการค้นหาโซลูชั่นที่จะทำให้ชีวิตของศิลปินของเราดีขึ้นและที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขา
เราเห็นความต้องการในตลาดในการลดอุปสรรคสำหรับศิลปินในการนำเพลงของพวกเขาเข้าสู่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อการค้นพบ และปรับปรุงกระบวนการนำเพลงที่กลายเป็นกระแสไวรัล
สู่แพลตฟอร์มการสตรีมมิ่งและดาวน์โหลดให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เปิดตัวบริการใหม่ที่ไม่เหมือนใครในการสร้างผลงานการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย - เพื่อให้ศิลปินอินดี้สามารถสร้างรายได้ระหว่างการทดลองและทดสอบตลาดของพวกเขา ในเมื่อแฟนๆ คือผู้สร้างหรือผู้ทำลายอาชีพศิลปิน: ทำไมไม่ให้พวกเขาตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการได้ยินอะไรตั้งแต่เริ่มแรกล่ะ เป็นการกระจายปัญหาไปยังกลุ่มคนเพื่อหาคำตอบอย่างดีที่สุด
ศิลปินสามารถเผยแพร่เพลงได้ไม่จำกัดไปยังคลังเพลงของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, YouTube, Instagram และ Facebook โดยไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า – ขจัดกระบวนการที่ยุ่งยากและยุ่งเหยิงในอดีต ลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยลง
ด้วยวิธีใหม่นี้ หากศิลปินไม่พร้อมที่จะเผยแพร่บทเพลงของตนบนแพลตฟอร์มเพลงดิจิทัลเช่น Spotify พวกเขาสามารถแชร์บทเพลงที่ทำขึ้นใหม่กับแฟนเพลงที่มีอยู่แล้ว – และรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ชมและผู้ทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดีย
บทสรุป: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน (A&R) มาถึงแล้ว
หลังจากได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเพลงที่กำลังสร้างกระแสไวรัล ดิฉันคิดว่า: เราจะช่วยผลักดันเรื่องนี้อย่างไรและใช้โซเชียลมีเดียในนามศิลปินของเราให้เกิดประโยชน์ทั้งสองทางคือ – การสร้างรายได้จากกระแสไวรัลนั้นและการทดสอบเพลงใหม่แบบเดียวกับที่ Charlotte Sands ทำ
และนั่นคือจุดกำเนิดของแผนการเผยแพร่บทเพลงไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อทดสอบตลาดก่อนการเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวงกว้าง หากศิลปินโพสต์วิดีโอเพลงใหม่ในช่องโซเชียล พวกเขาอาจได้รับยอดวิวและยอดติดตาม แต่จะไม่สามารถสร้างรายได้จากเพลงนั้น แต่การปล่อยเพลงสู่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียผ่าน TuneCore ทำให้เพลงเข้าไปอยู่ในคลังเพลงและศิลปินสามารถเริ่มสร้างรายได้จากเพลงของพวกเขาได้ทันทีจากกระแสไวรัล เมื่อเพลงได้รับความนิยม ศิลปินคนนั้นสามารถเผยแพร่เพลงผ่าน TuneCore ไปยังร้านค้าและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งกว่า 150 แห่งทั่วโลกได้ในไม่กี่คลิก
ท้ายที่สุด สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในกระบวนการทำงานของ<br>ฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน (A&R) ต่างจากค่ายเพลงใหญ่ๆ ที่ใช้เงินหลายหมื่น – หลายแสน หลายล้านดอลลาร์เพื่อโปรโมตเพลงของศิลปิน ศิลปินอินดี้ไม่มีทรัพยากรและเงินทุน แต่สิ่งที่พวกเขามีในตอนนี้คือโอกาสในการอัปโหลดเพลงโดยตรงไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและรับทราบความคิดเห็นของแฟนเพลงก่อนที่จะลงทุนโปรโมตเพลงของตน เหมือนมีกลุ่มโฟกัสสำหรับบทเพลงแต่ละบทเพลง ก่อนหน้านี้ศิลปินไม่มีสิทธิ์หรือช่องทางที่จะถามแฟนเพลงถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจะฟัง ในอดีตทุกอย่างต้องผ่านผู้รักษาประตู – ผู้บริหารค่ายเพลง ดีเจรายการวิทยุ – ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจเลือกศิลปินจากค่ายใหญ่ๆ ในการปล่อยเพลงสู่สาธารณะชนก่อน
เพราะคุณสมบัติของโซเชียลมีเดียจึงไม่มีผู้รักษาประตูอีกต่อไป แฟนเพลงเป็นผู้ตัดสินใจว่าพวกเขาชอบอะไรและอะไรสร้างกระแสไวรัล TuneCore ใช้ประโยชน์จากพลังของโซเชียลมีเดียในการเอื้ออำนวยให้ศิลปินอินดี้เชื่อมต่อกับแฟนเพลงได้โดยตรง และดิฉันคิดว่าค่ายเพลงใหญ่ๆ จะดำเนินรอยตามในที่สุด
นี่คือเหตุผลว่าทำไมศิลปินอินดี้ DIY จึงเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมเพลง เพราะปัจจุบันมีช่องทางให้ศิลปินอินดี้เข้าถึงแฟนเพลงมากมายและมีผู้รักษาประตูน้อยลงกว่าเดิม การค้นพบเพลงใหม่ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียและการสตรีมมิ่งทำให้การค้นหาศิลปินใหม่ๆ เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมมาก การเติบโตของโซเชียลมีเดียควบคู่ไปกับศิลปิน DIY สนามแข่งขันไม่ได้ถูกปรับระดับ แต่ถูกสร้างขึ้นใหม่